พระพิฆเนศเทพความสำเร็จ เดอะซีรีส์

เทพความสำเร็จตอนที่ 1


รู้ไหมว่าก่อนจะมีตำนานพระพิฆเนศอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ คนอินเดียโบราณเขารู้จักพระองค์แบบไหน?

จริง ๆ แล้ว ในยุคก่อนที่จะมีคัมภีร์ปุราณะ ชื่อ “คณปติ” (Ganapati) ที่เราคุ้นเคยกันว่าเป็นพระพิฆเนศ เคยปรากฏมาก่อนในคัมภีร์ฤคเวท ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนะ ประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว

แต่ต้องบอกก่อนว่า… ตอนนั้นชื่อ “คณปติ” ยังไม่ได้หมายถึงพระพิฆเนศอย่างที่เรารู้จักกันในตอนนี้นะ กลับหมายถึงเทพองค์อื่น เช่น “พระพฤหัสบดี” หรือในบางบทก็หมายถึง “พระอินทร์” ซึ่งเป็นเทพเจ้าสำคัญในเรื่องสงคราม ฟ้าผ่า และฝนฟ้า

พูดง่าย ๆ คือ ชื่อ “คณปติ” สมัยนั้นใช้เรียกเทพที่เป็นจ่าฝูงของเหล่าเทพหรือคณะหนึ่ง ๆ ยังไม่ได้ผูกโยงกับพระพิฆเนศแบบตรง ๆ

แล้วพระพิฆเนศที่เรารู้จักเริ่มมีเมื่อไหร่?

ในคัมภีร์ไตตติรีย-อารัณยกะ (เป็นคัมภีร์ยุคถัดมา) เริ่มมีบทสวดถึงเทพที่เรียกว่า “ทันตัน” ซึ่งแปลว่า “ผู้มีงา” หรือ “งาเดียว” — อาจจะหมายถึงเทพที่มีหน้าเป็นช้าง ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นพระพิฆเนศนั่นเอง

เพราะฉะนั้น นักวิชาการบางคนก็เลยตั้งข้อสันนิษฐานว่า การบูชาพระพิฆเนศอาจเริ่มต้นจากการนับถือเทพช้างของชาวพื้นเมืองอินเดียก่อนที่ชาวอารยันจะเข้ามา หลังจากนั้น พอเข้าสู่ยุคราชวงศ์คุปตะ (ประมาณพุทธศตวรรษที่ 10) ชาวอารยันก็เริ่มยอมรับและนับถือพระพิฆเนศอย่างจริงจัง จนทำให้เกิดตำนานและเรื่องราวที่เราคุ้นกันในปัจจุบัน ซึ่งถูกเล่าไว้ในคัมภีร์ปุราณะนั่นเอง

อยากรู้ตำนานแบบละเอียดในคัมภีร์ปุราณะ?

รอติดตามตอนต่อไปได้เลย!

เทพแห่งความสำเร็จ ตอนที่ 2


ทราบหรือไม่ว่า เรื่องราวของ “พระพิฆเนศวร” ที่ปรากฏในรูปแบบที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันนั้น มีการกล่าวถึงไว้อย่างละเอียดใน “คัมภีร์ปุราณะ” วรรณกรรมสำคัญของอินเดียโบราณ

คัมภีร์ปุราณะ ถือเป็นวรรณกรรมภาษาสันสกฤตที่ทรงคุณค่า และเปรียบได้กับสารานุกรมแห่งโลกโบราณของอินเดีย เดิมคำว่า “ปุราณะ” หมายถึง “เรื่องเล่าเก่าแก่” แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำนี้ได้ถูกยกระดับให้เป็นประเภทวรรณกรรมที่รวบรวมเนื้อหาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตำนานของวีรบุรุษ ราชวงศ์โบราณ วงศ์ฤๅษี การกำเนิดของโลกและจักรวาล ตลอดจนองค์ความรู้ด้านดาราศาสตร์ ปรัชญา ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์

คัมภีร์ปุราณะมีทั้งหมด 18 คัมภีร์ในฉบับภาษาสันสกฤต โดยแต่ละคัมภีร์มีความยาวและเนื้อหาที่แตกต่างกัน บางเล่มมีความเก่าแก่ในระดับดั้งเดิม ขณะที่บางเล่มได้รับการเพิ่มเติมหรือปรับปรุงในภายหลัง ทั้งนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับ “พระพิฆเนศวร” ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ปุราณะหลายฉบับ โดยเฉพาะในคัมภีร์ของ นิกายไศวะ ซึ่งเป็นนิกายที่เคารพบูชาพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด

คัมภีร์ที่กล่าวถึงพระพิฆเนศวรอย่างเด่นชัด ได้แก่

  • ศิวปุราณะ (Shiva Purana)

  • ลิงคปุราณะ (Linga Purana)

  • วราหปุราณะ (Varaha Purana)

  • และ ปัทมปุราณะ (Padma Purana)

คัมภีร์เหล่านี้บรรยายถึงพระลักษณะ ปางต่าง ๆ ตลอดจนตำนานที่เกี่ยวข้องกับพระพิฆเนศวรไว้อย่างละเอียดและลุ่มลึก

กล่าวโดยสรุป หากผู้ใดต้องการศึกษาและเข้าใจเรื่องราวของพระพิฆเนศวรอย่างลึกซึ้ง คัมภีร์ปุราณะถือเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญและเปี่ยมด้วยคุณค่า ไม่เพียงในแง่ของศาสนาและตำนานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา ความเชื่อ และรากฐานทางวัฒนธรรมของอินเดียที่สืบทอดกันมายาวนานนับพันปี

รอติดตามตอนต่อไปได้เลย!

เทพความสำเร็จตอนที่ 3


กำเนิดพระพิฆเนศวร (ตามคัมภีร์ศิวปุราณะ)

ในคัมภีร์ ศิวปุราณะ ซึ่งเป็นคัมภีร์ของฝ่ายไศวนิกาย ได้เล่าถึงเรื่องราวของ “พระพิฆเนศวร” ไว้ใน รุทรสังหิตา ภาค 2 ส่วนที่ 4 กุมารขัณฑะ บทที่ 13–20 โดยกล่าวถึงการกำเนิดของพระองค์ไว้ว่า…

การสร้างพระพิฆเนศ

ขณะพระนาง ปารวตี หรือ พระอุมา กำลังสรงน้ำ พระศิวะเสด็จเข้ามาโดยมิได้แจ้ง พระนางจึงรู้สึกไม่เหมาะสมและคิดสร้างผู้ช่วยไว้เฝ้าประตู ด้วยการนำขี้ไคลจากร่างกายของตนมาปั้นเป็นเด็กชายผู้มีกำลังและรูปร่างสง่างาม พร้อมประทานอาวุธและเครื่องประดับ แล้วสั่งให้เฝ้าประตูไม่ให้ใครเข้ามา หากไม่ได้รับอนุญาต

การปะทะกับพระศิวะ

เมื่อพระศิวะเสด็จกลับมาและจะเข้าไปหาพระนางปารวตี เด็กชายที่ถูกสร้างขึ้นไม่รู้จักพระศิวะ จึงขัดขวางและใช้กระบองตีไล่ แม้พระศิวะจะบอกฐานะของตน เด็กชายก็ยังไม่ยอมให้เข้าไป

พระศิวะจึงส่งเหล่าผู้ติดตามมาช่วย แต่ก็พ่ายแพ้ จนต้องให้พระอินทร์และเหล่าเทพมาร่วมรบ ซึ่งก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้

การตัดเศียรและการฟื้นคืนชีพ

พระศิวะพิโรธ จึงให้พระวิษณุวางแผนลวง ก่อนจะใช้ตรีศูลตัดเศียรของเด็กชายคนนั้นจนขาด เมื่อพระนางปารวตีทราบเรื่องก็โกรธมากและสร้าง “ศักติ” ขึ้นมา 100 ตน เพื่อทำลายเหล่าเทพ

เหล่าเทพหวั่นเกรงว่าโลกจะพินาศ จึงหาทางให้พระนางคลายโทสะ พระศิวะจึงให้เหล่าเทพไปหาสัตว์ที่ตายโดยหันศีรษะไปทางทิศเหนือ และพบช้างตัวหนึ่ง จึงตัดหัวช้างนั้นมาให้พระศิวะ

พระศิวะจึงนำหัวช้างมาต่อกับร่างเด็กชาย พร้อมเสกให้ฟื้นคืนชีพ กลายเป็น พระพิฆเนศวร และได้รับการยอมรับว่าเป็นพระโอรสของพระศิวะและพระนางปารวตี

พรและสถานะของพระพิฆเนศ

พระนางปารวตีประทานพรว่า พระพิฆเนศวรจะต้องได้รับการบูชาก่อนเทพองค์อื่นใด และจะเป็นเทพผู้ขจัดอุปสรรคในทุกพิธีกรรม หากไม่บูชาพระพิฆเนศก่อน พิธีนั้นจะไม่มีผล

พระพิฆเนศวรถือกำเนิดในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือนภัทรบทมาส (เดือน 10) ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าวัน คเณศจตุรถี และถือเป็นวันเริ่มต้นการบูชาพระพิฆเนศเพื่อความสำเร็จ


เรื่องราวการอภิเษกของพระพิฆเนศ

วันหนึ่ง พระศิวะและพระนางปารวตีปรึกษากันเรื่องการหาคู่ให้พระโอรสทั้งสอง คือ พระพิฆเนศวร และ พระสกันทกุมาร จึงตั้งเงื่อนไขว่า ใครสามารถเดินทางรอบโลกได้ก่อน จะได้แต่งงานก่อน

พระสกันทกุมารรีบขี่นกยูงพาหนะของตนออกเดินทางทันที ส่วนพระพิฆเนศวรใช้ปัญญา ตั้งอาสนะให้พระศิวะและพระนางปารวตีประทับ แล้วทำประทักษิณรอบท่านทั้งสอง 7 รอบ พร้อมอธิบายว่า ตามคัมภีร์ระบุว่า การบูชาบิดามารดาเท่ากับการเวียนรอบโลก

พระศิวะและพระนางปารวตีประทับใจในไหวพริบ จึงจัดพิธีวิวาห์ให้พระพิฆเนศวรกับ นางสิทธิ (ความสำเร็จ) และ นางพุทธิ (ปัญญา) ธิดาของพระประชาบดี

พระพิฆเนศวรมีโอรส 2 พระองค์ คือ

  • จากนางสิทธิ: พระเกษม

  • จากนางพุทธิ: พระลาภะ

ส่วนพระสกันทกุมารเมื่อกลับมาแล้วทราบเรื่อง ก็เสียใจจนหนีไปอยู่ที่ เขาเกราญจ ใกล้เขาไกรลาส และไม่แต่งงานอีกเลย


สรุป

เรื่องราวของพระพิฆเนศวรตามคัมภีร์ศิวปุราณะ แสดงให้เห็นถึงการกำเนิดจากความรักของพระมารดา ผ่านบททดสอบ สติปัญญา และการยอมรับจากพระศิวะ ตลอดจนการยกย่องให้เป็นเทพผู้ขจัดอุปสรรค และเป็นองค์แรกที่ต้องบูชาในทุกพิธีกรรม ด้วยเหตุนี้ พระพิฆเนศวรจึงเป็นเทพแห่งความสำเร็จที่ได้รับการเคารพบูชาอย่างกว้างขวาง

เทพความสำเร็จตอนที่ 4

พระศิวะในลิงคปุราณะ: ตำนานการกำเนิดพระพิฆเนศวร

ในคัมภีร์ลิงคปุราณะ ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญของฝ่ายไศวนิกายในศาสนาฮินดู ได้บันทึกเรื่องราวอันศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับการกำเนิดของ พระพิฆเนศวร เทพเจ้าแห่งปัญญา และผู้ขจัดอุปสรรคที่ได้รับการบูชาเป็นองค์แรกก่อนเริ่มพิธีกรรมใด ๆ

📖 จุดเริ่มต้นของความปั่นป่วน

ตำนานเล่าว่า…

ในสมัยหนึ่ง เหล่าอสูรจำนวนมากพากันไปอ้อนวอนขอพรจากพระศิวะ พวกเขาสัญญาว่าจะใช้พรนั้นในทางที่ดี แต่เมื่อได้รับพรกลับใช้พลังเหล่านั้นสร้างความเดือดร้อนไปทั่วจักรวาล

🕉️ คำวิงวอนจากเหล่าเทวดา

เมื่อเห็นว่าโลกเริ่มไร้สมดุล เหล่าเทวดาทั้งหลายจึงพากันไปกราบทูลพระศิวะ ขอให้พระองค์ทรงช่วยขัดขวางไม่ให้อสูรสามารถประกอบพิธีกรรมบูชาขอพรได้สำเร็จอีกต่อไป

พระศิวะทรงรับคำ และตัดสินใจเสด็จเข้าสถิตในครรภ์ของ พระแม่ปารวตี

จากนั้นไม่นาน พระองค์ก็ได้ถือกำเนิดเป็น พระพิฆเนศวร หรือที่เรียกว่า “พระคเณศวร”

✨ พระพิฆเนศวร: เทพผู้ขัดขวางพิธีกรรมที่ไม่บริสุทธิ์

เมื่อพระพิฆเนศวรประสูติ พระศิวะได้ประทานพรและมอบหน้าที่สำคัญ

คือ ให้พระองค์ทำหน้าที่ “สร้างอุปสรรค” แก่ผู้ที่ประกอบพิธีกรรมด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจ

เช่น ผู้ที่ไม่มอบทักษิณาแก่พราหมณ์ หรือผู้ที่ไม่ให้เกียรติครูบาอาจารย์

พร้อมกันนั้น พระศิวะยังตรัสว่า…

“หากผู้ใดจะทำพิธีบูชาพระศิวะ พระนารายณ์ หรือพระพรหม

จะต้องบูชาพระพิฆเนศวรก่อน

มิฉะนั้น พิธีนั้นจะไม่เป็นมงคล”

🔱 เทพผู้เปิดทางสู่ความสำเร็จ

จากคำประกาศิตนี้เอง พระพิฆเนศวรจึงกลายเป็นเทพที่ต้องได้รับการบูชาก่อนเทพองค์ใด

เพื่อเปิดทางให้พิธีกรรม หรือการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่น

พระองค์ยังได้ก่อตั้ง “วิฆนคณะ” ซึ่งเป็นคณะเทพผู้ช่วยเหลือในการสร้างอุปสรรคแก่ผู้ที่ไม่เคารพในกฎแห่งธรรม


🙏 ทำไมเราจึงควรไหว้พระพิฆเนศก่อน?

เพราะพระองค์คือ “เทพผู้เปิดทาง”

ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มงาน เปิดกิจการ เข้าพิธีทางศาสนา หรือแม้กระทั่งการเดินทาง

พระพิฆเนศวรจะช่วยขจัดสิ่งกีดขวาง นำพาความสำเร็จ ความราบรื่น และปัญญาอันเฉียบคมมาสู่ผู้ศรัทธา


📌 สรุป

ตำนานจาก ลิงคปุราณะ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่า แต่เป็นรากฐานของความศรัทธา

และยังเป็นเหตุผลว่าทำไม “พระพิฆเนศ” จึงได้รับการบูชาเป็นองค์แรกเสมอ

หากคุณกำลังจะเริ่มสิ่งใหม่ อย่าลืมกราบขอพรจากพระองค์

เพราะเส้นทางที่ดี มักเริ่มต้นจากใจที่ศรัทธา 🙏

ตำนานการกำเนิดของพระพิฆเนศวร หรือพระคชานน

จากคัมภีร์สกันทปุราณะ

ในคัมภีร์ สกันทปุราณะ ได้กล่าวถึงเรื่องราวการถือกำเนิดของ พระพิฆเนศวร ไว้ว่า…

พระนางปารวตีทรงขัดถูพระวรกาย แล้วนำเครื่องประทินผิวที่ขัดถูออกมาปั้นเป็นชายหนุ่มรูปงาม

พระนางทรงซุบลมหายใจประทานชีวิตแก่รูปปั้นนั้น เด็กหนุ่มจึงลุกขึ้นและกล่าวว่า

“จะให้หม่อมฉันทำสิ่งใด ขอพระองค์ได้โปรดบัญชา”

พระนางปารวตีจึงตรัสว่า

“ในขณะที่เรากำลังสรงน้ำ ห้ามให้ใครล่วงล้ำเข้ามาได้เป็นอันขาด”

จากนั้น เด็กหนุ่มจึงไปยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู

ขณะนั้น พระศิวะ เสด็จมา และต้องการเข้าไปยังสถานที่ซึ่งพระนางปารวตีกำลังสรงน้ำอยู่

แต่เด็กหนุ่มขัดขวาง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น

เด็กหนุ่มใช้ไม้กระบองตีที่หน้าผากของพระศิวะ

พระศิวะโกรธมาก จึงใช้ตรีศูลตัดศีรษะของเด็กหนุ่มจนสิ้นชีวิต

เมื่อพระนางปารวตีเห็นว่าพระโอรสของพระนางสิ้นชีวิต ก็ทรงกันแสงด้วยความเสียพระทัย

พระศิวะเห็น “คชาสูร” (อสูรรูปร่างเป็นช้าง) อยู่ใกล้ ๆ จึงตัดศีรษะของคชาสูรมาใส่เข้ากับร่างของเด็กหนุ่ม

แล้วเด็กหนุ่มผู้นั้นก็ลุกขึ้นมายืนต่อหน้าพระศิวะ

พระศิวะจึงขนานนามใหม่ให้ว่า “คชานน” ซึ่งก็คือ พระพิฆเนศวร นั่นเอง


🌺 อีกหนึ่งตำนานกำเนิดของพระพิฆเนศวรจากสกันทปุราณะ

นอกจากนี้ สกันทปุราณะ ยังได้กล่าวถึงอีกตำนานหนึ่งว่า…

วันหนึ่ง พระนางปารวตีได้นำน้ำมันและธุลีจากพระวรกายมาผสมกัน แล้วเสด็จไปยังปากแม่น้ำคงคา

ณ ที่นั้น มีนางรากษสตนหนึ่ง ชื่อว่า “มาลินี” ซึ่งเป็นช้าง

พระนางปารวตีจึงประทานน้ำมันผสมธุลีนั้นให้นางรากษสมาลินีกิน

นางกินเข้าไปแล้วตั้งครรภ์

ต่อมา นางให้กำเนิดโอรสผู้มี เศียรเป็นช้าง ๕ เศียร

พระนางปารวตีรับเป็นพระโอรส

พระศิวะเองก็ยอมรับเช่นกัน และยังทรงบันดาลให้เศียรทั้ง ๕ รวมกันกลายเป็นหนึ่งเดียว

จากนั้นจึงประทานนามให้ว่า “วิฆเนศวร”

ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้ขัดขวางซึ่งความขัดข้อง” หรือ ผู้ขจัดอุปสรรคทั้งปวง


📌 สาระน่ารู้

จากทั้งสองตำนานนี้ จะเห็นได้ว่า พระพิฆเนศวรไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นเพียงเพื่อเป็นเทพแห่งโชคลาภและปัญญาเท่านั้น

แต่ยังทรงเปี่ยมด้วยพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่ การขจัดอุปสรรค และการเยียวยาความสูญเสีย

ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้คนมากมายเลือกบูชาพระองค์เป็นเทพองค์แรกก่อนเริ่มสิ่งใดเสมอ